*”ดร.มหานิยม”ถวายความรู้พระภิกษุเข้าอบรมพระวิปัสสนาจารย์ย้ำ!”รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง”จะแก้ปัญหาที่ดินวัดหมื่นแห่งให้สำเร็จ*

Uncategorized

*“ดร.มหานิยม”ถวายความรู้พระภิกษุเข้าอบรมพระวิปัสสนาจารย์ย้ำ!”รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง”จะแก้ปัญหาที่ดินวัดหมื่นแห่งให้สำเร็จ*

เวลา 19.39 น.วันที่ 29 มกราคม 2568 ที่วัดสุวรรณประสิทธิ์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ “ดร.นิยม เวชกามา” หรือ “ดร.มหานิยม” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล) บรรยายถวายความรู้แด่พระภิกษุผู้เข้าอบรมพระวิปัสสนาจารย์รุ่นที่ 53 จำนวน 150 รูป พร้อมกับเปิดโอกาสให้ซักถามหรือแนะนำสิ่งที่รัฐบาลภายใต้การนำของ “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ควรดำเนินการสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์

ดร.นิยม เวชกามา กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยชุดนี้มีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนาและดูแลคณะสงฆ์ 2 ปีที่ผ่านมาอาจทำได้ไม่เต็มที่อันเนื่องจากปัจจัยหลากหลายประการ แต่ตอนนี้สัญญาณชัดว่า ปัญหาที่ดินวัด ที่ดินสำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ที่อยู่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินของรัฐประมาณ 10,000 แห่ง จะต้องได้รับการแก้ไขเป็นเรื่องด่วน ซึ่งเรื่องนี้ทำเป็นวาระแห่งชาติ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้งให้ “รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งมีภารกิจจะต้องสนองกิจการคณะสงฆ์ทั้ง 6 ด้าน เป็นประธาน และมี ดร.นิยม เป็นรองประธานคนที่หนึ่ง

“ปัญหาที่ดินวัดและที่พักสงฆ์ที่ยังไม่ได้รับโฉนดหรือยังไม่ได้รับเอกสารอะไรเลยที่ถูกต้อง จะต้องได้รับการแก้ไขภายใต้รัฐบาลชุดนี้ พวกเราชาววัดต้องเข้าใจก่อนว่า ในอดีตเวลาสร้างวัด เป็นของชุมชน เป็นของส่วนรวม สร้างด้วยศรัทธาชาวบ้าน คนถวายที่ดินแล้วก็สร้าง ไม่ต้องมีโฉนดอะไร เพราะคิดว่าคงไม่มีใครมาแย่งหรือมาบุกรุกอะไร แต่วันหนึ่งบ้านเมืองเปลี่ยน วัดจะต้องมีโฉนดจึงจะขอพระราชทานวิสุงคามสีมา เพื่อประกอบศาสนกิจได้ จึงกลายเป็นปัญหา ซึ่งคณะกรรมการชุดที่นายกรัฐมนตรี ตั้งขึ้นมานี้ จะนัดประชุมกันในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ ถือว่าเป็นวาระแรก เป็นวาระแห่งชาติ มีเรื่องที่จะต้องคุยกันมากเกี่ยวกับที่ดินวัด ในคณะกรรมการชุดนี้จะมีตัวแทนจากหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับที่ดินมาร่วมประชุม ซึ่งคงจะต้องพูดคุยกันหาทางออกให้กับคณะสงฆ์ว่าจะทำอย่างไร ปัญหาที่ดินวัดจึงจะได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน”

ในขณะที่พระภิกษุผู้เข้าอบรมซึ่งเดินทางมาจากทั่วประเทศได้ตั้งคำถามหลากหลายคำถาม โดยเฉพาะเรื่องที่ดินวัด เช่น บางวัดตั้งอยู่ในที่ดินสาธารณประโยชน์ แต่เวลาไปขอออกเอกสารสิทธิขออนุญาตตั้งวัด อบต.บ้าง เทศบาลบ้าง ไม่ยอมเซ็นต์เอกสารให้ บางวัดโยมถวายที่ให้แล้ว แต่เป็นชื่อเจ้าอาวาสหลังเจ้าอาวาสองค์เก่ามรณภาพ โฉนดที่ดินวัดตกเป็นของวัดเดิมที่เจ้าอาวาสสังกัดอยู่ หรือแม้กระทั้งที่ว่าปัญหาชาวพุทธและวัดในภาคใต้ ทำอย่างไรจึงจะอยู่รอดปลอดภัยและไม่ทิ้งแผ่นดินหนีตายกัน เป็นต้น//////ดร.นิยม  เวชกามา///..kao kon. E san…