แม่ทัพภาค 4 มอง 21 ปี ไฟใต้ หลังลดกำลังกลับหน่วยที่ตั้ง ทิศทางบรรยากาศการใช้ชีวิตปกติสุขเริ่มดีขึ้น ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามใช้สื่อสร้างเงื่อนไขในพื้นที่ต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนรู้เท่าทัน ตรวจสอบข้อเท็จจริง

Uncategorized

อะหมัด/มาวันดี/ยะลา/6ม.ค.68/082-2608313

แม่ทัพภาค 4 มอง 21 ปี ไฟใต้ หลังลดกำลังกลับหน่วยที่ตั้ง ทิศทางบรรยากาศการใช้ชีวิตปกติสุขเริ่มดีขึ้น ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามใช้สื่อสร้างเงื่อนไขในพื้นที่ต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนรู้เท่าทัน ตรวจสอบข้อเท็จจริง

วันนี้ 6 ม.ค.68 ที่ ศูนย์ฝึกอบรมกองกำลังประจำถิ่นทำสาสาป ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา
พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะหน่วยกองกำลัง ในเทศกาลปีใหม่ 2568 และปิดการฝึกเสริมสร้างขีดความสามารถสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จังหวัดชายแดนภาคใต้ (หลักสูตรเสริมสร้างผู้นำ อส.จชต.) ภาคสนาม รุ่นที่ 1 ประจำปี 2568 พร้อมทั้ง มอบนโยบายการขับเคลื่อนมิติงานด้านความมั่นคง เพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันและมีศักยภาพในการปฏิบัติงาน สนับสนุนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีความพร้อมสามารถปฏิบัติงานรองรับภารกิจ การถ่ายโอนตามแผนเสริมสร้างประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครประจำพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กองอำนวยการรักษาความมันคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตามแนวทางหลักการป้องกัน และปราบปรามการก่อความไม่สงบโดยการใช้กำลังทหารให้น้อยใช้กำลังพลเรือนให้มากที่สุด โดยมี ผู้บังคับบัญชา ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วม
พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาเป็นประธานในพิธีปิดการฝึกเสริมสร้างขีดความสามารถสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จังหวัดชายแดนภาคใต้ รุ่นที่ 1 /2568ได้เห็นถึงความเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน ซึ่งในอนาคต จะเป็นกำลังหลัก ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ทั้งนี้มองว่า ในพื้นที่กองกำลังประจำถิ่น โดยเฉพาะกองอาสารักษาดินแดน สามารถทำงานด้านการข่าว ยุทธวิธี และงานด้านพลเรือน โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างความเข้าใจในพื้นที่ และเป็นกำลังหลักที่จะสื่อถึงนโยบายการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล สู่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการเน้นย้ำกำชับกำลังหลัก ทั้ง เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมทั้งพี่น้องประชาชน ในการร่วมหารือ ทบทวน สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อลดช่องว่าง เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ เพื่อหาทางป้องกันในมาตรการต่างๆ ลดการเกิดเหตุร้ายในพื้นที่ หลักๆคือการเรื่องการติดตามบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมาการประชาสัมพันธ์ของรัฐค่อนข้างน้อย เกือบทุกคดีในคดีความมั่นคง มีความก้าวหน้าทั้งหมด ซึ่งกว่าจะได้ข้อยุติของคดีความมั่นคง ใช้เวลาพอสมควรในการติดตามจับกุม และศาลตัดสิน เพื่อลงโทษผู้ที่กระทำความผิด
แม่ทัพภาค 4 ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า 21 ปี ไฟใต้ ที่เกิดขึ้น สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป หากมองฝ่ายตรงข้าม ขบวนการ BRN เริ่มปฏิบัติการณ์ ตั้งแต่ปี 2503 มีการจัดตั้งเข้มแข็ง ในปี 2527 ในปี 2536 ก่อเหตุเผาโรงเรียนพร้อมกัน 38 โรงเรียน ในปี 2544-2546 มีการปล้นปืน หน่วยอุทยานแห่งชาติ หน่วยทักษิณพัฒนา และทวีความรุนแรงมากขึ้นในวันที่ 4 มกราคม 2547 เปิดตัวต่อสู้มากขึ้น ปัจจุบัน ฝ่ายตรงข้าม จากการติดตามของทางเจ้าหน้าที่ ในการบังคับใช้กฎหมาย สามารถจับกุมได้มากขึ้น เหตุการณ์ต่างๆก็น้อยลง โดยในห้วงที่ผ่านมา ข้อประจักษ์ในพื้นที่คือ กำลังเจ้าหน้าที่ทหารที่มาประจำการในพื้นที่ ทั้งกำลังทหารกองทัพภาคที่ 1 ภาคที่ 2 และภาคที่ 4 สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ในปี 2559 ซึ่งหน่วยกำลังเหล่านี้ได้กลับไปยังที่ตั้งประจำหน่วย มีเพียงหน่วยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาคที่ 4 และหน่วยกำลังทหารพรานบางส่วนเท่านั้น ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ เป็นการสื่อให้เห็นว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับ สิ่งที่น่ากังวล และเป็นห่วงในปัจจุบัน คือการใช้สื่อของฝ่ายตรงข้าม ในการกระจายข่าว ทางสื่อโซเชียลมีเดีย ในการด้อยค่า งานของเจ้าหน้าที่รัฐ สร้างเงื่อนไขในพื้นที่ ทั้งนี้ อยากให้เห็นถึงผลการปฏิบัติงานในห้วงที่ผ่านมา ว่า การลดกำลังเจ้าหน้าที่กลับหน่วยที่ตั้ง ประชาชนสามารถใช้ชีวิตตามปกติสุข นั่นคือ การสื่อถึงสถานการณ์ที่ดีขึ้น ขอให้รู้เท่าทัน ในการรับรู้สื่อต่างๆ รวมทั้งการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐเอง ก็จะให้ข้อเท็จจริงกับพี่น้องประชาชน